Monthly Book

เดือนกันยายนแล้วเพื่อน ๆ เวลานี่จะรีบวิ่งหนีเราไปไหนนะ หลายสิ่งหลายอย่างที่เราอยากทำมันในวันนี้กลับทำไม่ทันอีกแล้วเพราะเวลามันช่างหมุนไปเร็วเหลือเกิน (ไม่ใช่ว่าเราขี้เกียจนะ) ในเดือนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตการุรุมอนเยอะอยู่พอสมควรเลยล่ะ...ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีคละเคล้าปะปนกันไป...งั้นมาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. สิ่งที่ดีสิ่งแรกแต่ก็ไม่ดีเท่าไรสำหรับตัวการุรุมอน...มันคือ การได้ไปสัมมนากับพรรคพวกที่ทำงานเท่านั้นแหละ...สองปีมีครั้งนึงมั้งเห็นคนเก่า ๆ บอก แต่การุรุมอนรุ้สึกเฉย ๆ ไม่ตื่นเต้นอะไรเล้ย...จะบอกว่าไม่ไปก็ไม่ได้เดี๋ยวก็โดนแอนตี้หาว่าไม่เขาสังคม (โฮ้ยย น่าเบื่อจริง) ยังก็ต้องไปอ่ะนะ การุรุมอนไปทั้งหมด 3 วันแต่รู้ไรมะ...งานสัมมนาอ่ะเสร็จตั้งแต่วันแรกที่ไปถึงแล้ว ดังนั้นที่เหลือก็จะเป็นวันเที่ยวของพวกเรา (ความคิดของพวกเขาทั้งนั้น...เราไม่ได้เกี่ยวด้วยเล้ย) แต่อย่างน้อยสิ่งที่ดีก็คือ การุรุมอนได้ไปพักผ่อนในที่ที่ไม่ไปมานานกว่า 4 ปีแล้วซึ่งนั่นก็คือ ทะเลที่ประจวบคีรีขันธ์ ไปพักที่โรงแรมติดหาด 2 คืน ทำให้การุรุมอนได้มีโอกาสชมวิวทะเลอีกครั้งและนั่นก็ทำให้การุรุมอนเองก็มีความสุขมิใช่น้อยเลยทีเดียว ลองนึกภาพตามนะว่า แสงแดดยามเย็นค่อย ๆ ส่องออกมาจากก้อนเมฆสีเทาที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ แสงแดดค่อย ๆ ส่องออกมาเป็นลำ ๆ เหมือนกับแสงสวรรค์ลงมาที่ผืนน้ำไกล ๆ บรรยากาศที่เงียบสงบและสายลมเย็น ๆ ที่พัดโบกมากระทบกับใบหน้าของการุรุมอน คลื่นทะเลที่ค่อย ๆ ซัดเข้ามาอย่างช้า ๆ เรื่อย ๆ ทำให้การุรุมอนได้ยินเสียงน้ำกระทบกับผืนทรายเป็นจังหวะ ๆ ได้อย่างชัดเจน...เฮ้อออ มันช่างเงียบสงบ...ดูกว้างใหญ่ไพศาล...และสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเลยจริง ๆ...ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ที่แอบแฝงของพวกเขา ก็คือการเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ใน 2 วันที่เหลือนั่นแหละ (สัดส่วนง่าย ๆ ทำงาน 20 อีก 80 เที่ยวอย่างเดียว) โดยในวันที่ 2 ของการไปสัมมนาคือ การเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดประจวบคีรีขันต์นั่นแหละ...ที่ที่การุรุมอนไปมาก็มีพวกอุทยานแห่งชาติพื้นที่ชุ่มน้ำของโลกที่มีในไทย พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน สวนสนและเดินชมป่าชายเลนในธรรมชาติ ล่องเรือดูชาวประมง ขึ้นเขาไปไหว้ศาลเจ้าแม่ทับทิมแล้วดูวิวทะเลสวย ๆ และก็พวกวัดวาอารามต่าง ๆ นั่นแหละนะ...ในแต่ละที่ที่ไปมามันก็ดูสวยงามมาก การุรุมอนก็ชอบดีเพราะมันดูเป็นธรรมชาติอ่ะนะ...เหล่านั้นแหละที่พอทำให้การุรุมอนรู้สึกไม่ถึงกับเบื่อมากนัก ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้การุรุมอนช่าง ๆ มันไปแล้วเก็บบรรยากาศมาดีกว่า ซึ่งตอนนี้การุรุมอนก็มีรูปที่ถ่ายมาอยู่เต็มกล้องไปหมดเลย (รูปวิวทั้งนั้น รูปสิ่งมีชีวิตอื่นแทบจะไม่มีเล้ย)

2. เรื่องที่ดีอย่างที่สองนี้เป็นเรื่องที่ดีกว่าเรื่องแรกเสียอีก..มันคือ เรื่องของเพื่อนสนิทของการุรุมอนที่กล่าวถึงอยู่บ่อย ๆ นั่นแหละ...คือว่า มันมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นระหว่างการุรุมอนกับเขา ซึ่งมันเป็นปัญหาที่เกือบทำให้ความเป็นเพื่อนของเราขาดกันซะแล้ว...เรื่องอะไรนั้นนะ การุรุมอนไม่ขอบอกล่ะกัน เพราะถือว่ามันผ่านไปแล้ว...ซึ่งสิ่งที่ดีที่การุรุมอนได้รับมา นั่นก็คือ การได้รู้ถึงความรู้สึกของเพื่อนการุรุมอน...โดยในระหว่างที่เรามีปัญหากันนั้น มันมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ทั้งตัวการุรุมอนและเพื่อนของการุรุมอนนั้นรู้สึกว่า...มันดูแย่มาก ๆ เลยแฮะที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น...เป็นไปได้ไหมที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม...เราทั้งคู่ไม่ได้คุยกันไปเพียงแค่ 1 วันเต็ม ๆ แล้วหลังจากนั้นต่างคนก็ต่างกลับมาพูดคุยกันอีก...ซึ่งเราก็ได้เข้าใจกันและกลับมาเป็นเพื่อนสนิทกันและดูเหมือนว่าจะสนิทกันมากกว่าแต่ก่อนด้วย...มันเหมือนกับว่า...ทะเลาะกันแล้วสนิทกันมากขึ้น...ประมาณนั้นอ่ะนะ...เวลาที่มีเพื่อนสนิทกับใครสักคนแล้วเกิดเรื่องทะเลาะกันขึ้นมาจนถึงจุดที่คิดว่าอาจจะทำให้แยกออกจากกันนี้...มันรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูกเลย...ถึงจะโกรธแต่ก็ไม่อยากตัดความสัมพันธืที่เราอุตส่าห์ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาในอดีต...ดังนั้นการให้โอกาส คือ สิ่งที่ดีที่สุด...การุรุมอนคิดอย่างนี้ไงล่ะ ทุกอย่างจึงกลับมาเป็นเหมือนเดิม...ไม่สิ...ดีขึ้นกว่าเดิมต่างหาก...สบายใจได้แล้วนะเพื่อนรัก

1. อันนี้นึกแล้วอยากจะบ้าตายมาก ๆ เพราะมันคือ การพลาดงานแถลงข่าวเปิดตัวดิจิมอนภาค 5 ในเมืองไทย...โฮ้ยยยยย นึกแล้ว เสียดายยยยย!!...เพราะอะไรรู้มะ...ก็เพราะไอ้สัมมนานี่แหละ วันของมันดันไปตรงกับวันที่มีงานแถลงข่าวพอดีเลยไม่ได้ไปเลย ฟังแต่ละคนที่ไปมาเล่านะ โอ้ยยย มันเจ็บปวดรวดร้าวมากๆๆๆ...เราเองเป็นแฟนดิจิมอนแบบบ้าเข้ากระดูกแท้ ๆ แต่กลับมาพลาดงานที่สำคัญแบบนี้...แย่จริง ๆ เล้ย!!...ขอให้มีงานแบบนี้อีกเถอะนะ การุรุมอนอยากไปมากเลยจริง ๆ (ถ้าไม่เห็นว่างานสำคัญกว่านะ การุรุมอนไม่ไปหรอกไอ้สัมมนงสมัมนาเนี่ย)